ไปต่อหรือพอแค่นี้? น้ำท่วมระดับไหน ที่ไม่ควรขับรถลุย
ฝนตกหนักทีไร เป็นต้องน้ำท่วมทุกที โดยอาจจะเกิดจากการที่ระบายน้ำออกจากท้องถนนไม่ทัน ซึ่งหากคุณจำเป็นต้องขับรถเพื่อลุยน้ำท่วมจริงๆ แล้วน้ำท่วมระดับไหนกัน? ที่ควรจะลุย หรือไม่ควรจะลุย มาดูเลยกัน!!
1.ระดับน้ำ 5-10 เซนติเมตร
เป็นระดับน้ำที่รถสามารถขับผ่านไปได้ทุกคัน ถือเป็นเรื่องระดับน้ำขังปกติที่พบได้ในช่วงฝนตกเนื่องจากระบายน้ำลงท่อไม่ทัน แต่ไม่ควรใช้ความเร็วสูงมากในการขับรถ เนื่องจากอาจจะทำให้สูญเสียการควบคุมได้เพราะถนนลื่น หรืออาจเจอหลุมบ่อบนถนนจนทำเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
2.ระดับน้ำ 10-20 เซนติเมตร
น้ำท่วมระดับนี้ รถสามารถขับผ่านได้ทุกคันเช่นกัน แต่อาจมีเสียงน้ำกระเพื่อมอยู่ที่ใต้ท้องรถจากคลื่นเล็กๆ ที่เกิดจากรถขับผ่านไปมา สำหรับรถขนาดเล็กควรระวังเป็นพิเศษ เพราะน้ำอาจจะเข้าในตัวรถได้
3.ระดับน้ำ 20-40 เซนติเมตร
เป็นระดับน้ำที่อยู่ระดับเดียวกับของประตูรถเก๋งแทบทุกรุ่น รถเก๋งควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจจะทำให้รถเริ่มมีปัญหา เนื่องจากท่อไอเสียนั้นจะจมน้ำเกือบตลอดเวลา ส่วนรถกระบะทั่วไปและรถเอสยูวีสามารถขับผ่านได้ แต่ควรขับช้าๆเพื่อความปลอดภัย
4.ระดับน้ำ 40-60 เซนติเมตร
น้ำท่วมระดับนี้เป็นอันตรายต่อรถเก๋ง ควรเลี่ยงไปใช้ถนนเส้นอื่นดีที่สุด ส่วนรถกระบะทั่วไปเริ่มถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ขับได้แต่ควรขับช้าๆ เพื่อลดการเกิดคลื่นน้ำซัดเข้าหาตัวรถจากรถคันอื่น และควรปิดแอร์ขณะขับรถ ส่วนรถกระบะยกสูงทั่วไปนั้นสามารถผ่านได้ ไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องขับช้าๆ และระวังเรื่องคลื่นเช่นกัน
5.ระดับน้ำ 60-80 เซนติเมตร
น้ำท่วมระดับนี้เป็นอันตรายต่อรถทุกประเภท ควรเลี่ยงใช้ถนนเส้นนี้ ไม่ควรฝืนขับเข้าไปโดยเด็ดขาด เพราะน้ำอาจไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับและเกิดความเสียหายต่อระบบอื่นๆของเครื่องยนต์ได้ หากต้องลุยน้ำท่วมระดับนี้ คนขับต้องมีความชำนาญในการขับเป็นพิเศษ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน
6.ระดับน้ำ 80 เซนติเมตรขึ้นไป
เป็นระดับน้ำที่สูงที่สุดที่รถจะรับไหว เพราะความสูงระดับ 80 ซม. คือความสูงระดับฝากระโปรงรถที่สามารถท่วมมิดไฟหน้ารถ ท่วมเครื่องยนต์ ท่วมเข้าไปในตัวรถ และอาจทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจรเสียหายได้ ไม่แนะนำให้ขับลุย เพื่อความปลอดภัยของรถและตัวคนขับเอง
แน่นอนว่าหากคุณจำเป็นจะต้องขับรถลุยน้ำท่วมแล้วละก็ อย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์ 2+ 3+ ที่ให้ความคุ้มครองเรื่องน้ำท่วม อุ่นใจทั้งรถ อุ่นใจทั้งคุณ
ข้อมูลจาก : กรมขนส่งทางบก