น้ำฝนมีฤทธิ์เป็นกรด ประกอบกับมลพิษทางอากาศในปัจจุบัน จึงส่งผลให้ฝนมีค่า pH ต่ำกว่าเดิม โดยเฉพาะในย่านที่เป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง จะยิ่งส่งผลให้ฝนที่ตกลงมากลายสภาพเป็นฝนกรด (Acid Rain) ได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะกัดกร่อนสีรถ ทำให้รถดูหมอง และสีรถเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งานจริง
หากเราไม่ล้างรถช่วงหน้าฝน จะเกิดคราบฝังแน่น หน้าฝนเสี่ยงต่อการเกิดคราบฝังแน่น เพราะเมื่อรถแห้งไปแล้วจะเกิดคราบน้ำที่ผิวรถ หากเป็นรถที่จอดกลางแจ้ง หลังจากฝนตกแดดออกคราบน้ำฝนที่แห้งติดอยู่บนผิวรถจะส่งผลให้ทำความสะอาดได้ยากยิ่งขึ้น จึงควรล้างรถอย่างสม่ำเสมอ
เสี่ยงต่อการเกิดสนิม ไม่ว่าจะจอดรถตากฝน ขับรถฝ่าฝน หรือลุยน้ำท่วม ทำให้มีความชื้นมากกว่าปกติ จึงทำให้รถมีโอกาสเกิดความชื้นสะสมจนทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นสนิมได้ การดูแลรถด้วยการล้างและเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังจากโดนฝนมาแล้ว จึงช่วยรักษาสภาพรถคันโปรดของคุณให้ใหม่อยู่เสมอได้
เหตุผลเหล่านี้ น่าจะช่วยให้กับคนรักรถทราบแล้วว่า ทำไมช่วงหน้าฝนจึงควรหมั่นล้างรถเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อรักษาสภาพรถให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ
ที่มา โตโยต้าลีสซิ่ง