7 วิธีเลือกซื้อฟิล์มรถยนต์ แบบไหนดี แบบไหนเหมาะกับคุณ

7 วิธีเลือกซื้อฟิล์มรถยนต์ แบบไหนดี แบบไหนเหมาะกับคุณ

7 วิธีเลือกซื้อฟิล์มรถยนต์ แบบไหนดี แบบไหนเหมาะกับคุณ
1. ฟิล์มย้อมดำ เป็นเพียงแผ่นฟิล์มที่ย้อมด้วยสีดำเท่านั้น เน้นความเป็นส่วนตัวแต่ไม่ตอบโจทย์การกันร้อนใดๆ เพราะไม่มีสารป้องกันความร้อนอะไรเลย ฟิล์มประเภทนี้ราคาขายจะถูกมากๆ หลักร้อยหรือไม่กี่พัน ยิ่งสำหรับเมืองร้อนประเทศไทยอย่างเรา ใช้ไม่กี่เดือน ฟิล์มก็ซีดจางเสื่อมแน่นอน ไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ
2. ฟิล์มโลหะ พูดชื่อนี้อาจสงสัย แต่ถ้าสำหรับคนไทยเรา คงคุ้นหูกันในชื่อของ “ฟิล์มปรอท” กันเป็นอย่างดี ฟิล์มประเภทนี้จะมีการเคลือบ/ผนึกไอโลหะ บนเนื้อฟิล์ม จุดเด่นคือเงามาก สะท้อนแสงสูง การกันร้อนดี มีหลายสีให้เลือก ส่วนใหญ่มักไม่รองรับสัญญาณดิจิทัลต่างๆ
3. ฟิล์มใสกันร้อน ก่อนที่จะมาถึงยุคฟิล์มเซรามิค (ซึ่งจะกล่าวในข้อถัดไป) นี่คือฟิล์มชนิดพิเศษที่กลุ่มผู้ใช้รถระดับ High-End นิยมกันอย่างมากครับ เพราะต้องการโชว์ความสวยงามภายในรถ และเนื่องจากมีความใส แต่ยังมีประสิทธิภาพการกันความร้อนได้ดีถึงดีมาก ทำให้ต้องใช้เทคนิคการผลิตที่มีความพิเศษกว่าฟิล์มทั่วๆ ไป ทำให้ราคาค่อนข้างสูง
4. ฟิล์มเซรามิค นี่คือฟิล์มมาตรฐานที่กำลังเป็นที่นิยมของรถยนต์ยุคดิจิทัลปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ใช้เทคนิคผลิตฟิล์มแบบ Magnetron Sputtering ในการทำให้อนุภาคของเซรามิคเข้าไปผนึกฝังอยู่ในเนื้อฟิล์มแบบเซรามิค 100% หรืออาจมีการผสมสารอื่นเพิ่มเติมเข้าไป เช่น แพตทินัม โลหะเงิน/ทอง โดยคุณสมบัติเด่นคือ กันความร้อนได้ดีเยี่ยม สีฟิล์มเข้มนอกสว่างใน สะท้อนแสงต่ำ ให้วิสัยทัศน์ที่เคลียร์ใสทั้งกลางวัน-กลางคืน และที่สำคัญที่สุดไม่ปิดกั้นของสัญญาณดิจิทัล ซึ่งถ้าเป็นฟิล์มเซรามิคแท้จะมีราคาสูงพอสมควร
5. ฟิล์มชาโคล อีกหนึ่งประเภทของฟิล์มคุณภาพสูง ที่พัฒนาจากฟิล์มคาร์บอน และฟิล์มเซรามิคในปัจจุบัน โดยมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับฟิล์มเซรามิค ทั้งเทคโนโลยีการผลิต สีฟิล์ม การกันร้อนที่ดี สะท้อนแสงต่ำ ภายนอกเข้มเป็นส่วนตัว แต่ความเคลียร์ใสจากมุมมองภายใน ฟิล์มเซรามิคจะยังได้เปรียบกว่าเล็กน้อยครับ อย่างไรก็ตามด้วยราคาติดตั้งของฟิล์มชาโคลก็เป็นจุดเด่นที่ผู้ใช้รถสามารถเอื้อมถึงได้ง่ายกว่าฟิล์มเซรามิคมาก แถมได้ประสิทธิภาพที่ดีไม่แพ้ฟิล์มเซรามิคมากนัก แต่คุ้มค่าเงินในภาวะเศรษฐกิจยุคนี้มากกว่าแน่ๆ
6. ฟิล์มนิรภัย มีจุดเด่นด้านความหนาของเนื้อฟิล์มที่มีมากกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วไป ซึ่งฟิล์มปกติจะหนาไม่เกิน 1.5 mil. แต่ฟิล์มนิรภัยจะมีความหนาไม่น้อยกว่า 4-16mil. จึงให้ความทนทานกว่า 10 เท่า นอกจากจะช่วยกันร้อนได้ดี ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทรัพย์สินภายในรถจากการโจรกรรมได้อีกด้วย
7. ฟิล์มดิจิทัล ฟิล์มนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ต่อยอดจากฟิล์มเซรามิคเกรดคุณภาพสูง โดยออกแบบมาเพื่อตอบรับเทคโนโลยียานยนต์อนาคตที่เกิดขึ้นในยุคนี้ โดยฟิล์มดิจิทัลจะมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการรองรับสัญญาณดิจิทัลทั้ง 5G /WIFI เต็มรูปแบบ ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้ในระบบสมองกล AI ในรถยุคใหม่ อาทิ ระบบ ADAS /Infotainment / AutoUpdate software & firmware on the air เป็นต้น เสริมระบบไฟฟ้า และช่วยประหยัดพลังงานให้รถยนต์ EV / Hybrid หรือ smart car ได้อย่างดี