เพราะอะไร? ทำไมรถสตาร์ทนานกว่าเดิม

เพราะอะไร? ทำไมรถสตาร์ทนานกว่าเดิม

เพราะอะไร ทำไมรถสตาร์ทนานกว่าเดิม
แบตเตอรี่
คือ หนึ่งในตัวปัญหาที่รถยนต์สตาร์ทติดยาก ซึ่งเกิดจากอาการแบตเตอรี่เสื่อมหรือจอดรถยนต์ทิ้งไว้นาน ลองพิจารณาจากสาเหตุต่อไปนี้นะครับ
1.1 อายุ  แบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุประมาณ 2-3 ปีแล้วแต่คุณภาพและวัสดุของแบตเตอรี่อีกทั้งการใช้งานของผู้ใช้รถแต่ละท่านแต่ละชนิด แนวทางแก้ไขโดยการนำไปชาร์จไฟแบตและเติมน้ำกลั่นซึ่งอาจใช้ไปได้อีกสักระยะหนึ่ง (1-3เดือน) หรือ เปลี่ยนลูกใหม่
1.2 ขั้ว แบตเตอรี่ที่มีขั้วสกปรกหรือขั้วหลวมหรือขั้วที่เกิดการแข็งด้านนี่ก็เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้รถยนต์สตาร์ทติดยาก แนวทางการแก้ไข คือ ขันขั้วแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขั้วให้แน่นหรือใช้กระดาษทรายขัดหน้าสัมผัสขั้วตะกั่วของแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขั้วให้อยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งาน

2. มอเตอร์สตาร์ท
คือ หนึ่งในตัวปัญหาที่รถยนต์สตาร์ทติดยาก มักเกิดจากเสื่อมขั้วละลายและแปลงถ่านไหม้
2.1 แปลงถ่าน มอเตอร์สตาร์ทซึ่งเกิดการสึกหรอและเสื่อมสภาพ เราจะสังเกตอาการได้จากการที่เราเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่มาแล้วหรือนำแบตเตอรี่ที่น้ำกลั่นแห้งไปชาร์จไฟเต็มเรียบร้อยแล้ว แต่ยังสตาร์ทยากหรือสตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม แนวทางการแก้ไข นำรถยนต์เข้าศูนย์บริการหรือช่างซ่อมไดร์มอเตอร์เปลี่ยนแปลงถ่านหรือเปลี่ยนมอเตอร์สตาร์ทลูกใหม่
3. ระบบไฟฟ้าฟิวส์หรือรีเลย์สตาร์ทเตอร์
คือ อีกหนึ่งในตัวปัญหาที่มักเป็นสาเหตุของอาการรถสตาร์ทติดยาก
3.1 หน้าสัมผัส จุดหน้าสัมผัสของรีเลย์หรือฟิวส์ที่สกปรกหรืออาจจะมีมดตัวเล็ก ๆ เข้าไปภายในบริเวณรีเลย์และขั้วฟิวส์ ซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อยพอสมควร แนวทางการแก้ไข เราต้องทำความสะอาดบริเวณหน้าสัมผัสหรือตัวรีเลย์จากนั้นก็น้ำใสเข้าไปใหม่แล้วลองสังเกตอาการสตาร์ทดูหรือการเปลี่ยนฟิวหรือตัวรีเลย์สตาร์ทใหม่ก็สามารถแก้ปัญหาการสตาร์ทติดยากได้
4.ไดร์ชาร์จไฟ
ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการสตาร์ทติดยากได้ โดยมีที่มาจาก
4.1 การเสื่อมของไดร์ชาร์จ เป็นเหตุให้แบตเตอรี่ไม่สามารถรับการบรรจุไฟได้เต็มความจุจากนั้นเมื่อถึงเวลาสตาร์ทไฟในแบตเตอรี่จึงไม่พอที่จะสตาร์ทมอเตอร์จึงทำให้รถยนต์สตาร์ทติดยาก แนวทางการแก้ไข คือนำรถเข้าศูนย์บริการหรือเข้าอู่ซ่อมไดร์ชาร์จมอเตอร์เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงถ่านหรือชิ้นส่วนภายในของไดร์ชาร์จหรือเปลี่ยนไดร์ชาร์จลูกใหม่
5.ปั๊มติ๊กไฟฟ้า
คือหนึ่งในตัวปัญหาที่รถสตาร์ทติดยาก  การเสื่อมของมอเตอร์ปั๊มติ๊กไฟฟ้าในถังน้ำมันหรือการอุดตันของกรองปั๊มติ๊กไฟฟ้าหลายครั้งก็เป็นสาเหตุของการสตาร์ทติดยาก  แนวทางการแก้ไข เปลี่ยนปั๊มติ๊กไฟฟ้าลูกใหม่
6. น้ำมันรั่วในระบบ
คือ หนึ่งในตัวปัญหาทที่รถสตาร์ทติดยาก การรั่วของน้ำมันในระบบซึ่งเกิดขึ้นบ่อยหลายจุดที่เป็นตัวการ ช่างซ่อมรถยนต์จะต้องไล่ตามจุดต่างๆตั้งแต่สายน้ำมันจากท่อน้ำมันใต้รถยนต์ สายน้ำมันจากบริเวณก่อนเข้ากรองน้ำมันเบนซินหรือดีเซล สายน้ำมันก่อนเข้าปั๊มหัวฉีด การหลุดหลวมของบริเวณข้อต่อสายน้ำมันต่าง ๆ
7. ระบบหัวเผา
คือหนึ่งในตัวปัญหาที่รถสตาร์ทติดยาก จุดนี้พบเห็นบ่อย ๆ ในรถที่ใช้หัวเผาซึ่งถ้าเราจอดทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วสตาร์ทเครื่องในตอนเช้าติดยากอาจจะมีวงจรหัวเผาขาด แนวทางการแก้ไข คือควรนำรถเข้าเช็คศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมไดชาร์จมอเตอร์หรืออู่ซ่อมรถยนต์ที่มีประสบการณ์
8. กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตันสกปรก
จุดนี้เราจะพบเห็นบ่อย โดยอาจจะมีอาการร่วมด้วยคือการเร่งไม่ขึ้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่างให้ความสำคัญกับจุดนี้ที่มีอาการของรถสตาร์ทติดยากหรือการเร่งไม่ขึ้นในขณะที่ใช้งานประจำวัน
9. กลไกอื่น ๆ ของเครื่องยนต์
9.1 วาล์วไฮดรอลิกสกปรก  รถบางรุ่นที่ใช้วาล์วไฮดรอลิกมีปัญหาเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะบ่อยการสตาร์ทเครื่องที่ติดยากหรือติดแล้วสั่นหรือสะดุด แนวทางการแก้ไข คือถอดวาล์วออกมาล้างหรือเปลี่ยนวาล์วใหม่
9.2 บ่าวาล์วสึกหรอ เป็นสาเหตุหนึ่งที่รถสตาร์ทติดยากเพราะแรงอัดภายในกระบอกสูบรั่วซึ่งพบเห็นบ่อยในรถที่เริ่มหลวมหรือมีบ่าวาล์วสึก หรือรถแก๊สที่ใช้งานมานานก็มักพบปัญหานี้
9.3 หัวฉีดตันหรืออุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์เสื่อม สาเหตุนี้เห็นได้บ่อยๆแนะนำให้เข้าศูนย์บริการตรวจเช็คหรืออู่ซ่อมรถที่มีความรู้และประสบการณ์เพื่อตรวจสอบ OBD 2
จุดปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งที่พบบ่อย ต้นเหตุของอาการ รถสตาร์ทติดยาก เราต้องสังเกตในขณะที่ใช้รถอยู่เป็นประจำ ว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เริ่มผิดปกติบ้างหรือไม่ ถ้าหากมีเราควรแก้ไขตั้งแต่เริ่มแรกเพื่อที่จะไม่ให้ปัญหาเกิดบานปลายใหญ่โต ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่แก้ไขลำบากและค่าใช้จ่ายสูง อุปกรณ์ที่ควรมีติดรถอยู่เป็นประจำ เช่น ประแจ ไขควง บล็อกขันล้อ แม่แรง เราจัดไว้ติดท้ายรถไว้บ้างก็จะเป็นการดี สิ่งที่สำคัญ  คือการมองหาศูนย์บริการหรือช่างซ่อมรถที่มีประสบการณ์สูงเพื่อแก้ปัญหารถเราได้สำเร็จสมบูรณ์ด้วยดี
ขอบคุณภาพจาก tqm.co.th