ขั้นตอนการเตรียมพร้อมสำหรับล้างรถยนต์ที่ถูกต้อง
1. ให้จอดรถในที่ร่ม ไม่ล้างรถกลางแดด
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญของการล้างรถก็คือการจอดรถในที่ร่ม
ก่อนจะทำการล้างรถ เพราะการจอดรถตากแดดจะทำให้
ผิวรถยนต์เกิดความร้อนซึ่งจะทำให้เกิดคราบน้ำขึ้นบนพื้นผิวรถ
ทำให้ล้างทำความสะอาดยากขึ้นและเสียเวลาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
2. เตรียมอุปกรณ์ล้างรถ ให้พร้อม โดยมีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ดังนี้
- ถังน้ำ 2 ใบ สำหรับใส่น้ำยาล้างรถและซักผ้าหรือล้างฟองน้ำ
- ฟองน้ำ หรือ ผ้าล้างรถ (ควรมีอย่างน้อย 2 อันสำหรับล้างผิวรถยนต์และล้างล้อรถยนต์)
- แปรงพลาสติกขัดสำหรับขัดยางรถ กรณีที่ยางรถยนต์สกปรกมาก
- ผ้าไมโครไฟเบอร์ (ควรมีอย่างน้อย 3 ผืน ) ต้องแยกผ้าแต่ละผืน
- ผ้าเช็ดผิวรถไม่ใช้ปนกับผ้าเช็ดล้อรถเพราะถ้าใช้ผ้าเช็ดล้อแล้วมาเช็ดผิวรถก็อาจจะเกิดรอยขนแมวที่ผิวรถยนต์ได้
3. เตรียมผสมน้ำยาล้างรถ
ผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมและเตรียมถังน้ำเปล่าสำหรับล้างฟองน้ำ แนะนำให้เป็นน้ำยาล้างรถโดยเฉพาะ เพราะจะช่วยขจัดคราบได้ดีกว่าการใช้แชมพู
อีกทั้งน้ำยาล้างรถบางยี่ห้อยังมีส่วนผสมของชั้นแวคช่วงป้องกันสีซีดจากได้อีกด้วย
ขั้นตอนการล้างรถ
1. ฉีดน้ำเพื่อขจัดคราบสกปรก
การฉีดน้ำเพื่อขจัดคราบสกปรกช่วยให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวรถยนต์อ่อนตัวลงดยฉีดน้ำทั้งคันไล่จากบนหลังคารถ ลงมาด้านข้างของรถ
2. ล้างส่วนล้อรถยนต์ก่อน
ล้อรถมักจะเป็นส่วนที่สกปรกที่สุด จึงควรจะล้างส่วนล้อรถยนต์ให้สะอาดก่อนเพื่อที่สิ่งสกปรกจากล้อจะได้ไม่กระเด็นไปโดนส่วนผิวรถหากล้างล้อรถยนต์เป็นลำดับสุดท้าย ขณะที่กำลังล้างล้อรถยนต์ จะทำให้ผิวรถอาจจะแห้งเอง และจะทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถได้
3. เริ่มต้นล้างรถ จากบนหลังคารถ ลงมาด้านข้างของรถ
ก่อนจะเริ่มขัดผิวรถ ให้แช่ผ้าหรือฟองน้ำล้างรถในน้ำยาที่ผสมไว้แล้วก่อนแล้วค่อยนำมาขัดทำความสะอาดผิว ไม่ควรออกแรงขัดมากเกินไปเพราะจะทำให้รถยนต์เกิดรอยขีดข่วนหรือทำให้สีรถยนต์เสียหายได้
4. ล้างสิ่งสกปรกออกจากฟองน้ำ หรือผ้าที่ใช้ล้างรถบ่อย ๆ
ผ้าล้างรถไมโครไฟเบอร์ เป็นที่นิยมมากกว่าฟองน้ำ เนื่องจากโอกาสที่จะเกิดรอยขีดข่วน หรือ รอยขนแมวบนผิวรถ มีน้อยกว่าเพราะฟองน้ำล้างรถอาจจะมีเศษฝุ่นเม็ดทรายเล็ก ๆ
ติดอยู่ตามตามรูพรุนของฟองน้ำได้ ดังนั้นหากใช้ฟองน้ำจะต้องล้างทำความสะอาดฟองน้ำบ่อย ๆ
5. หลังจากล้างน้ำยาแต่ละส่วนเสร็จ ให้ฉีดน้ำล้างน้ำยาล้างรถออกให้หมด
ไม่ควรปล่อยให้น้ำยาล้างรถแห้งบนผิวรถ เพราะจะทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถควรทำแบบนี้ทุกครั้ง เมื่อล้างเสร็จทั้งคันแล้ว ให้ล้างน้ำเปล่าซ้ำอีกครั้ง
6. ควรให้รถเปียกทั้งคันขณะล้างรถ
ขณะที่ล้างควรให้ผิวรถยนต์ทั้งคันเปียกน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำบนผิวรถ
7. ล้างช่วงล่างเป็นลำดับสุดท้าย
ล้างช่วงล่างเป็นลำดับสุดท้าย โดยใช้ฟองน้ำหรือผ้าล้างรถยนต์ แยกกันต่างหากไม่ใช้ปนกัน
8. เช็ดรถให้แห้งด้วย ผ้าไมโครไฟเบอร์
หลังจากล้างรถ ควรเช็ดทุกผิวรถให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการเกิดคราบน้ำเช็ดผิวโดยไล่จากด้านบนหลังคารถยนต์ลงมาด้านล่างรถยนต์ และเช็ดล้อเป็นลำดับสุดท้าย ขณะเช็ดควรเปลี่ยนผ้าหลายๆผืน
เพราะถ้าแยกผ้าเช็ดหลายผืนโอกาสที่ผิวรถจะเกิดรอยขีดข่วนก็มีน้อย
- ทางศูนย์บริการจะใช้น้ำยาล้างรถแบบบเฉพาะเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผิวสีของรถ
- พนักงานล้างรถของทางศูนย์บริการมีประสบการณ์ และ ถูกอบรมวิธีล้างที่ถูกต้อง
- ลูกค้าควรนำทรัพย์สินมีค่าและเสี่ยงต่อความเสียหายออกจากรถก่อนเข้ารับบริการทางศูนย์ใช้น้ำยาเคลือบเงาที่ไม่เป็นอันตรายต่อส่วนต่างๆของรถ