"การทำประกันรถยนต์เป็นสิ่งที่คนใช้รถทุกคนควรทำเพราะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายกรณีเกิดอุบัติเหตุอีกทั้งยังช่วยผ่อนหนักเป็นเบา แต่การเคลมประกันที่คุ้นเคยส่วนใหญ่มักเป็นการเคลมทันทีเมื่อเกิดเหตุ หากต้องการ “เคลมย้อนหลัง” สามารถทำได้หรือไม่และทำได้จริงหรือ งานนี้คนทำประกันต้องรู้ก่อน เพื่อให้สามารถเคลมประกันได้อย่างมั่นใจ ถูกต้องตามขั้นตอน และไม่พลาดเมื่อเกิดเหตุจำเป็น"

 วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ ข้อมูลเบื้องต้น ของการเคลมประกันย้อนหลัง มาฝากกัน ซึ่งการเคลมประกันโดยปกติจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ การเคลมแบบสดและการเคลมแบบแห้ง

การเคลมแบบสด

การเคลมประกันในที่เกิดเหตุโดยจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันเข้าไปตรวจสอบทันที โดยอาจเป็นเหตุการณ์แบบมีคู่กรณีที่ฝ่ายผิดต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกก่อนและแบบไม่มีคู่กรณีอย่างการชนต้นไม้ เสาไฟ หรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีก็ได้

สำหรับขั้นตอนของการเคลมสด จะต้องเตรียมข้อมูลและกรมธรรม์ให้พร้อม จากนั้นจึงโทรแจ้งศูนย์ประกัน โดยแจ้งรายละเอียดคือหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียน ยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้วก็จะดำเนินการต่าง ๆ ทั้งเรื่องใครต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกและออกใบประเมินความเสียหายให้ซึ่งผู้ขับขี่ก็จะสามารถนำรถเข้าศูนย์ได้เลยทันที

การเคลมแบบแห้ง 

การเคลมหลังเกิดเหตุไประยะหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่จะเคลมย้อนหลังไม่เกิน 2-3 วัน การเคลมแบบนี้มักใช้ในกรณีโดนรถยนต์คันอื่นเฉี่ยวชนหรือได้รับความเสียหายเล็กน้อย ผู้ทำประกันต้องบันทึกเหตุการณ์และรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ต่างจากการเคลมแบบสด จากนั้นจึงทำการแจ้งเคลมประกันด้วยตัวเอง เน้นย้ำว่าการเคลมย้อนหลังต้องบันทึกวัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุเอาไว้อย่างชัดเจนด้วย จากนั้นเมื่อแจ้งศูนย์ประกันแล้วจะมีการนัดตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลัง และเมื่อตรวจสอบความเสียหายต่าง ๆ แล้วก็จะได้รับใบประเมินความเสียหายพร้อมนำรถเข้าซ่อมที่อู่ในเครือประกันเป็นขั้นตอนต่อไป

ดังนั้นการเคลมประกันแบบแห้งหรือการเคลมย้อนหลัง “สามารถทำได้” กรณีที่เป็นความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ต้องจำไว้คือต้องบันทึกข้อมูลการเกิดเหตุทั้งวัน เวลา สถานที่ และเหตุการณ์เอาไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การเคลมย้อนหลังอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกประมาณ 1,000-4,000 บาท ตามแต่ตกลงกับบริษัทประกันด้วย

ใครที่สงสัยเรื่องการเคลมประกันหลังเกิดเหตุคงได้คำตอบไปแล้ว อย่างไรก็ตามหากเกิดเหตุรุนแรงหรือมีคู่กรณี การแจ้งบริษัทประกันเอาไว้ก่อนจะดีที่สุด ส่วนกรณีที่เป็นความเสียหายเล็กน้อย จะเลือกเคลมย้อนหลังก็ได้ แต่ก็ต้องไม่ปล่อยไว้นานเกินไปจะดีกว่า

การใช้รถใช้ถนน แม้จะระวังแล้วก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ และทำให้รถคันโปรดเสียหายหรือมีตำหนิได้ ดังนั้นการมีประกันภัยรถยนต์ก็จะช่วยบรรเทาภาระต่าง ๆ

หมายเหตุ - *รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น เป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด

ข้อมูลจาก : www.tlt.co.th

"การทำประกันรถยนต์เป็นสิ่งที่คนใช้รถทุกคนควรทำเพราะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายกรณีเกิดอุบัติเหตุอีกทั้งยังช่วยผ่อนหนักเป็นเบา แต่การเคลมประกันที่คุ้นเคยส่วนใหญ่มักเป็นการเคลมทันทีเมื่อเกิดเหตุ หากต้องการ “เคลมย้อนหลัง” สามารถทำได้หรือไม่และทำได้จริงหรือ งานนี้คนทำประกันต้องรู้ก่อน เพื่อให้สามารถเคลมประกันได้อย่างมั่นใจ ถูกต้องตามขั้นตอน และไม่พลาดเมื่อเกิดเหตุจำเป็น"

 วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ ข้อมูลเบื้องต้น ของการเคลมประกันย้อนหลัง มาฝากกัน ซึ่งการเคลมประกันโดยปกติจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ การเคลมแบบสดและการเคลมแบบแห้ง

การเคลมแบบสด

การเคลมประกันในที่เกิดเหตุโดยจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันเข้าไปตรวจสอบทันที โดยอาจเป็นเหตุการณ์แบบมีคู่กรณีที่ฝ่ายผิดต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกก่อนและแบบไม่มีคู่กรณีอย่างการชนต้นไม้ เสาไฟ หรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีก็ได้

สำหรับขั้นตอนของการเคลมสด จะต้องเตรียมข้อมูลและกรมธรรม์ให้พร้อม จากนั้นจึงโทรแจ้งศูนย์ประกัน โดยแจ้งรายละเอียดคือหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียน ยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้วก็จะดำเนินการต่าง ๆ ทั้งเรื่องใครต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกและออกใบประเมินความเสียหายให้ซึ่งผู้ขับขี่ก็จะสามารถนำรถเข้าศูนย์ได้เลยทันที

การเคลมแบบแห้ง 

การเคลมหลังเกิดเหตุไประยะหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่จะเคลมย้อนหลังไม่เกิน 2-3 วัน การเคลมแบบนี้มักใช้ในกรณีโดนรถยนต์คันอื่นเฉี่ยวชนหรือได้รับความเสียหายเล็กน้อย ผู้ทำประกันต้องบันทึกเหตุการณ์และรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ต่างจากการเคลมแบบสด จากนั้นจึงทำการแจ้งเคลมประกันด้วยตัวเอง เน้นย้ำว่าการเคลมย้อนหลังต้องบันทึกวัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุเอาไว้อย่างชัดเจนด้วย จากนั้นเมื่อแจ้งศูนย์ประกันแล้วจะมีการนัดตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลัง และเมื่อตรวจสอบความเสียหายต่าง ๆ แล้วก็จะได้รับใบประเมินความเสียหายพร้อมนำรถเข้าซ่อมที่อู่ในเครือประกันเป็นขั้นตอนต่อไป

ดังนั้นการเคลมประกันแบบแห้งหรือการเคลมย้อนหลัง “สามารถทำได้” กรณีที่เป็นความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ต้องจำไว้คือต้องบันทึกข้อมูลการเกิดเหตุทั้งวัน เวลา สถานที่ และเหตุการณ์เอาไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การเคลมย้อนหลังอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกประมาณ 1,000-4,000 บาท ตามแต่ตกลงกับบริษัทประกันด้วย

ใครที่สงสัยเรื่องการเคลมประกันหลังเกิดเหตุคงได้คำตอบไปแล้ว อย่างไรก็ตามหากเกิดเหตุรุนแรงหรือมีคู่กรณี การแจ้งบริษัทประกันเอาไว้ก่อนจะดีที่สุด ส่วนกรณีที่เป็นความเสียหายเล็กน้อย จะเลือกเคลมย้อนหลังก็ได้ แต่ก็ต้องไม่ปล่อยไว้นานเกินไปจะดีกว่า

การใช้รถใช้ถนน แม้จะระวังแล้วก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ และทำให้รถคันโปรดเสียหายหรือมีตำหนิได้ ดังนั้นการมีประกันภัยรถยนต์ก็จะช่วยบรรเทาภาระต่าง ๆ

หมายเหตุ - *รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น เป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด

ข้อมูลจาก : www.tlt.co.th